วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่ 5

การที่ได้มาเรียนห้องเรียนพิเศษ ถือว่าเป็นโอกาสดี จากที่ได้สัมผัสมาสักระยะแล้วนั้น รู้สึกได้ถึงการอยู่ในสังคมที่ดี มีเพื่อนที่เป็นดีและเป็นมิตร มีคุณครูที่อยากจะป้อนสิ่งดีๆให้เราทั้งความรู้และด้านคุณธรรมในเวลาเดียวกัน รู้สึกภูมิใจมากที่ได้ก้าวมาอยู่ตรงจุดนี้

กิจกรรมที่ 4

การได้เรียนเว็บบล็อก ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ที่ไม่เคยได้เรียน ในตอนแรกคิดว่าคงจะซับซ้อนมาก เพราะมีช่องตรงโน้น ตรงนี้ แต่เมื่อได้สัมผัสแล้ว ง่ายกว่าที่คิด เพราะหากเราต้องการป้อนข้อมูลใดๆ ก็มีช่องไว้ให้สำหรับสิ่งๆนั้นอยู่แล้วอย่างชัดเจน เว็บบล็อกมีข้อดีหลายอย่าง เช่น สามารถติดต่อถึงกันได้อย่างสะดวก และสามารถติดต่อกันได้เป็นเครือข่ายหลายเครือข่าย และง่ายต่อการเก็บข้อมูลและบันทึกสิ่งต่างๆ

กิจกรรมที่ 3


คุณน้าพรประสิทธิ์ ไม้เรียง

จากการที่คุณน้าพรประสิทธิ์มีความมุ่งมั่นในทางด้านนี้อยู่แล้ว ทำให้ในการทดลองค่อนข้างเรียบรื่น บวกกับความรักในด้านนี้ ทำให้คุณน้าพรประสิทธิ์สามารถทดลองได้ทั้งวันทั้งคืน




ลุงขจร ทิพาพงศ์
คุณลุงประยงค์และลุงขจรเป็นผู้พลิกวิกฤติราคายางพาราตกต่ำ จากในอดีตราคาเพียงกิโลกรัมละ 30 บาท แต่ในปัจจุบันนี้ ราคาถึง 110 บาท จากแนวคิดการรวมกลุ่มของบุคคลต่างอาชีพ ต่างวัฒนธรรมที่มาร่วมแก้ไขปัญหาที่คล้ายๆกัน ทำให้สามารถกำหนดราคายางพาราเองได้โดยไม่ขึ้นกับพ่อค้าคนกลาง




คุณลุงอนันต์ สุวรรณโน

เนื่องจากคุณลุงเป็นชาวสวนมาเป็นเวลานาน คุณลุงจึงมีความเชี่ยวชาญในด้านดินอยู่บ้าง บวกกับการประสานงานจากฝ่ายมหาวิทยาลัยที่เข้ามาทำการวิจัย ทำให้การหาวิธีทางทำให้ต้นไม้ออกดอก ออกผล ง่ายและสะดวกขึ้น

จะเห็นได้ว่าในอาชีพของท่านวิทยาการทั้งสาม จะเกี่ยวกับภูมิปัญญาชาวบ้านเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้เมื่อมีการผสมผสานระหว่างกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้ว เกิดผลประโยชน์มากมายที่เกื้อหนุนกัน อย่างลุงขจรและลุงประยงค์ ท่านทั้งสองอาจจะไม่ทราบว่า ทำไมในบ่อที่มีปลาดุกอยู่ 70 ตัว แต่สามารถเติบโตได้ดีกว่าในบ่อที่มีปลาดุกอยู่เพียง 50 100 และ120 ตัว แต่จากการทดลองและลงมือทำซึ่งถือเป็นกระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ก็ทำให้ทราบถึงความแตกต่างและความเหมาะสม ส่วนคุณลุงอนันต์คงไม่ทราบว่าทำไมต้นไม้ถึงออกดอก ออกผลในช่วงฤดูแล้งทั้งๆที่ขาดแคลนน้ำ แต่จากการสังเกตมาเป็นเวลานาน ทำให้คุณลุงรู้ถึงพฤติกรรมของต้นไม้ และคุณน้าพรประสิทธิ์นั้น ถือว่าเป็นวิทยากรที่ได้ร่ำเรียนมาสูงที่สุด ก็ได้นำสิ่งที่ร่ำเรียนมา มาทดลองและทุ่มเทให้กับมันอย่างเต็มที่ ต้องผ่านอะไรมามากมาย จนกระทั่งมีห้องแลบที่เหมาะในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจริงๆ

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่ 2

เส้นทางการเดินทางจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศถึง
ศูนย์ศีกษาและพัฒนาชุมชน ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช


สิ่งที่ประทับใจ

การเดินทางไปทัศนศึกษาที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน หรือมหาวิทยาลัยธรรมชาติ ที่อำเภอไม้เรียง ทำให้ประทับใจถึงการดำเนินชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ที่ยังมีกลุ่มคนที่ยังใช้ชีวิตแบบพอเพียงอย่างจริงจัง และใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านพัฒนาชุมชน จนถือเป็นแบบอย่างที่สำคัญ และมีชื่อเสียงระดับประเทศ เพราะมีผู้นำที่กล้าคิดที่จะต่อสู้ ไม่ยอมแพ้ต่อพิษของเศรษฐกิจ จนกระทั่งยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช
สิ่งที่ได้รับ
1.มหาวิทยาลัยธรรมชาติ<วิทยากร:คุณลุงขจร ทิพาพงศ์>
-ปลาดุกชีวภาพ เป็นการเลี้ยงปลาดุกในบ่อที่มีปลาดุกอยู่ร่วมกันถึง 70 ตัว ให้กินผัก แทนที่จะกินเนื้อ แต่ปลาดุกที่ได้ออกมานั้น มีคุณภาพใกล้เคียงกัน



-กบคอนโด เป็นการเลี้ยงกบในบ่อที่มียางรถมาวางทับกันเป็นชั้นๆเหมือนคอนโด ซึ่งจะทำให้มีลักษณะใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ทำให้กบที่เลี้ยงนั้น เติบโตได้เร็ว แต่ผิวของกบจะมีสีดำ ก่อนนำไปขายนั้น จึงต้องนำกบไปแช่ในน้ำฟางข้าว ผิวของกบก็จะมีสีเหลือง ทำให้ขายได้ราคาดีขึ้น




-น้ำหมักชีวภาพ
มีสูตรส่วนผสมและวิธีทำ ดังนี้



-น้ำยาล้างจาน มีสูตรการทำ ดังนี้



2.บ้านหมอดิน<คุณลุงอนันต์ สุวรรณโน>

-การบังคับให้ดอกไม้ออกดอกออกผล ทุกๆปี

-การตรวจสอบคุณภาพของดิน

-การเพิ่มสารอาหารในดิน โดยใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์และปุ๋ยคอก ควบคู่กันไป

3.ศูนย์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ<คุณน้าพรประสิทธิ์ ไม้เรียง>

-การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของกล้วยไม้โดยใช้สปอร์ ซึ่งทำการเพาะเลี้ยงในอาหารสังเคราะห์ทั้งแบบเหลวและแข็ง ซึ่งต้องอยู่ในสภาวะที่ปลอดเชื้อ เพราะหากเชื้อราเข้าไปในขวดทดลอง จะทำให้กล้วยไม้หยุดเจริญเติบโต

-กล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดคือ ว่านเพชรหึง หรือว่านหางช้าง ฝักของมันมีเมล็ดถึง 3 ล้านเม็ด

-กล้วยไม้เป็นดอกสมบูรณ์เพศ

-กล้วยไม้ป่าออกดอกในฤดูแล้งเท่านั้น

แคลลัสในขวดแก้วเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อประมาณ 1 ปี จึงจะสามารถนำกล้วยไม้มาเพาะเลี้ยงในสภาพอากาศทั่วไปได้

กิจกรรมที่ 1

ชื่อ นางสาวพรรณปพร มีแก้ว

ชื่อเล่น :กิ่งแก้ว

เกิดวันที่ :6ธันวาคม 2537

จบการศึกษาป.6จาก :โรงเรียนเทศบาลมเหยงคณ์

จบการศึกษาม.3จาก :โรงเรียนเบญจมราชูทิศ โครงการ SMTP

สีที่ชอบ :เขียว

สิ่งที่ชอบ :สุนัข